ในโลกที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบในปัจจุบัน การค้นหาอาหารว่างที่เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพและสะดวกสบายอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายได้ กราโนล่าบาร์เป็นทางเลือกที่นิยมสำหรับคนที่ต้องการอาหารว่างในขณะเดินทาง แต่ตัวเลือกที่ขายในร้านมักมีรสชาติที่หวานมากและมีสารกันบูดอย่างมาก ทำไมต้องยอมรับสิ่งนี้เมื่อคุณสามารถทำกราโนล่าบาร์อร่อยและเพิ่มพูนสุขภาพเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน? ในบทความนี้เราจะแนะนำวิธีการอบกราโนล่าบาร์ที่ทำเองที่ไม่เพียงแต่ง่ายแต่ยังอร่อยอย่างมาก ดังนั้น มาเริ่มต้นการผจญภัยทางครัวกันเลย!
Granola bar( Bake) กราโนล่าบาร์ เเบบอบ ทำง่าย สูตรอร่อยมากกว่าเดิมค่ะ [VIDEO]
ส่วนประกอบ
190 กรัม จัมโบ้โอ๊ต
35 กรัม เมล็ดทานตะวัน
35 กรัม เมล็ดฟักทอง
90 กรัม อัลมอนด์สไลด์
35 กรัม งาขาว
20 กรัม มะพร้าวอบเเห้ง
135 กรัม เเครนเบอรี่อบเเห้ง
125 กรัม นํ้าผึ้ง
30 กรัม นํ้ามันมะพร้าว
40 กรัม นํ้าตาลทรายเเดงสีเข้ม
1 ช้อนชา กลิ่นวนิลา
เตรียมส่วนผสม
ตารางส่วนผสม:
| ส่วนผสม | ปริมาณ |
|---|---|
| โอ๊ตจัมโบ้ | 190 กรัม |
| เมล็ดทานตะวัน | 35 กรัม |
| เมล็ดฟักทอง | 35 กรัม |
| อัลมอนด์สไลด์ | 90 กรัม |
| งาขาว | 35 กรัม |
| มะพร้าวอบเเห้ง | 20 กรัม |
| เเครนเบอรี่อบเเห้ง | 135 กรัม |
| น้ำผึ้ง | 125 กรัม |
| น้ำมันมะพร้าว | 30 กรัม |
| น้ำตาลทรายเเดงสีเข้ม | 40 กรัม |
| กลิ่นวนิลา | 1 ช้อนชา |
ผสมส่วนผสมฐานของกราโนล่าบาร์
การผสมส่วนผสมฐานของกราโนล่าบาร์:
- นำโอ๊ตจัมโบ้ 190 กรัม ลงในชามใหญ่.
- ใส่เมล็ดทานตะวัน 35 กรัม เข้าไป.
- เพิ่มเมล็ดฟักทอง 35 กรัม.
- ใส่อัลมอนด์สไลด์ 90 กรัม เข้าไป.
- เพิ่มงาขาว 35 กรัม.
- ใส่มะพร้าวอบแห้ง 20 กรัม.
- ประกอบกับเเครนเบอรี่อบแห้ง 135 กรัม.
- ราดน้ำผึ้ง 125 กรัม ลงในส่วนผสม.
- เทน้ำมันมะพร้าว 30 กรัม.
- ใส่น้ำตาลทรายเเดงสีเข้ม 40 กรัม.
- ปรับรสชาติด้วยกลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา.
- คนส่วนผสมให้เข้ากันอย่างดี.
ขณะนี้คุณได้ทำส่วนผสมฐานของกราโนล่าบาร์เสร็จสิ้นแล้ว สามารถดำเนินขั้นตอนถัดไปตามขั้นตอนในคำสั่งที่มีอยู่ในบทความต้นแบบได้เลยค่ะ.
เลือกรสชาติของกราโนล่าบาร์
คุณสามารถเลือกรสชาติของกราโนล่าบาร์ได้ตามความชอบของคุณเอง เรามีสองตัวเลือกสำหรับคุณที่จะเพิ่มรสชาติให้กับกราโนล่าบาร์ที่คุณทำ ตัวเลือกแรกคือ “ช็อคโกแลตชิปและมะม่วงหิมพานต์” ซึ่งจะให้ความหวานและครีมีจากช็อคโกแลตชิปและความกรอบจากมะม่วงหิมพานต์สไลด์ นี่เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่รักความหวานและโกโกแลต.
ส่วนตัวเลือกที่สองคือ “แครนเบอร์รี่และช็อคโกแลตขาว” ซึ่งมีความหวานและรสชาติสดชื่นจากแครนเบอร์รี่แห้งและความละเอียดอ่อนจากช็อคโกแลตขาวชิป ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรสชาติที่เป็นผลไม้และเนื้อหน้าชิค.
ด้วยสองตัวเลือกนี้ คุณสามารถปรับแต่งกราโนล่าบาร์ให้เหมาะกับรสชาติและความชอบของคุณ อาจเป็นการผสมรสชาติแบบเจือจางหรือทำให้เข้มข้นขึ้นตามความต้องการ เมื่อคุณเลือกตัวเลือกที่ถูกใจแล้ว คุณสามารถดำเนินขั้นตอนต่อไปในการทำกราโนล่าบาร์ตามบทความเพื่อให้ได้สินค้าสุดท้ายที่อร่อยและเพิ่มพูนสุขภาพได้อย่างง่ายดายค่ะ.
อบกราโนล่าบาร์ในเตาอบ
หลังจากคุณผสมส่วนผสมฐานของกราโนล่าบาร์เสร็จสิ้นแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการนำส่วนผสมนั้นมาอบในเตาอบ เพื่อให้กราโนล่าบาร์เริ่มมีรสชาติอร่อยและมีความกรอบ ขั้นแรกที่คุณต้องทำคือเตรียมเตาอบโดยเปิดให้ทำความร้อนที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ (180 องศาเซลเซียส) และวางกระดาษอบลงบนพื้นถาดอบเพื่อป้องกันไม่ให้กราโนล่าบาร์ติดกับพื้นถาด
เมื่อเตาอบพร้อม คุณก็สามารถสร้างและระเหยส่วนผสมฐานของกราโนล่าบาร์ในพื้นถาดอบที่คุณเตรียมไว้ จากนั้นใช้ไม้พายหรือมือเป่าผสมให้ระดับส่วนผสมเป็นแนวนอนและกดให้แน่นในพื้นถาดอบ
หลังจากนั้น คุณก็นำพายไปอบในเตาอบที่มีอุณหภูมิพร้อม อบกราโนล่าบาร์โดยใช้เวลาประมาณ 20-25 นาที หรือจนกราโนล่าบาร์เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีทอง จำได้ว่าอุณหภูมิและเวลาการอบอาจมีการปรับแต่งตามลักษณะของเตาอบของคุณ ดังนั้นควรสังเกตและทดลองก่อน
เมื่อกราโนล่าบาร์เสร็จสมบูรณ์ นำออกจากเตาอบและปล่อยให้เย็นในพื้นถาดอบอย่างน้อย 10 นาที จากนั้นใช้กระดาษอบเอาออกจากพื้นถาดอบและวางลงบนไม้ตัดผลไม้หรือพื้นที่ตัดสี เพื่อรอให้เย็นและตัดกราโนล่าบาร์เป็นชิ้นตามขนาดที่คุณต้องการได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ คุณยังสามารถเริ่มเสิร์ฟกราโนล่าบาร์ของคุณได้เลยหลังจากที่มันเย็นถูกตัดแล้ว และพร้อมสำหรับการแสน็น่ารับประทานและอิ่มท้องในทุกๆ โอกาส.
ฉีดกราโนล่าบาร์และอบ
หลังจากที่คุณผสมและอบส่วนผสมของกราโนล่าบาร์เสร็จสิ้นแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการใส่ส่วนผสมรสชาติลงบนฐานกราโนล่าบาร์และอบใหม่เพื่อให้ส่วนผสมนั้นติดเข้ากับฐานอย่างแน่นหนา คุณสามารถเลือกจากสองตัวเลือกที่เรามีให้แก่คุณตามความชอบของคุณ หรือแม้แต่ผสมสองตัวเลือกเข้าด้วยกันหากคุณต้องการรสชาติที่หลากหลายและน่าติดใจ.
ตัวเลือกแรกคือ “ช็อคโกแลตชิปและมะม่วงหิมพานต์” ซึ่งจะให้กราโนล่าบาร์ของคุณมีรสชาติหวานจากช็อคโกแลตชิปและความกรอบจากมะม่วงหิมพานต์สไลด์ ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับคนที่หลงใหลในรสชาติของช็อคโกแลตและความหวาน.
ส่วนตัวเลือกที่สองคือ “แครนเบอร์รี่และช็อคโกแลตขาว” ซึ่งมีความหวานและรสชาติสดชื่นจากแครนเบอร์รี่แห้งและความละเอียดอ่อนจากช็อคโกแลตขาวชิป ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรสชาติที่เป็นผลไม้และเนื้อหน้าชิค.
ด้วยการเลือกตัวเลือกที่ถูกใจของคุณและการนำมาปรับแต่งกราโนล่าบาร์ของคุณ คุณจะได้รับสินค้าสุดท้ายที่อร่อยและเพิ่มพูนสุขภาพอย่างง่ายดาย หลังจากที่คุณเลือกตัวเลือกและทำการประกอบเสร็จสมบูรณ์ คุณสามารถนำกราโนล่าบาร์กลับไปอบในเตาอบอีกครั้ง เพื่อให้ส่วนผสมรสชาติติดเข้ากับฐานอย่างแน่นหนา และความกรอบที่หายไป เมื่อกราโนล่าบาร์อบสุกแล้ว นำออกจากเตาอบและปล่อยให้เย็นอย่างน้อย 10 นาที จากนั้นคุณสามารถตัดกราโนล่าบาร์เป็นชิ้นตามขนาดที่คุณต้องการและพร้อมสำหรับการรับประทานและอิ่มท้อง.
ความเย็นและการตัด
หลังจากที่กราโนล่าบาร์ของคุณอบสุกแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการรอให้มันเย็นลง ความเย็นนี้จะช่วยให้กราโนล่าบาร์ติดรวมกับส่วนผสมรสชาติอย่างแน่นหนา ควรปล่อยให้กราโนล่าบาร์เย็นอย่างน้อย 10 นาที หรือมากกว่านี้ถ้าคุณต้องการความเย็นมากขึ้น
หลังจากที่กราโนล่าบาร์เย็นพอดี คุณสามารถเริ่มตัดตามขนาดที่คุณต้องการได้แล้ว โดยใช้มีดที่มีคมให้คราบเเน่น หากคุณชอบกราโนล่าบาร์มีขนาดเล็ก สามารถตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ได้ แต่ถ้าคุณชอบมีขนาดใหญ่กว่า ก็สามารถตัดเป็นชิ้นใหญ่ได้ตามความต้องการ
การตัดกราโนล่าบาร์ต้องระมัดระวังเพื่อไม่ทำให้ส่วนผสมราวๆ มืดหรือแตก แนะนำให้ตัดอย่างประณีต หลังจากที่คุณตัดเสร็จสิ้น กราโนล่าบาร์ของคุณก็พร้อมสำหรับการรับประทานหรือการแพ็คและเก็บรักษาได้แล้วค่ะ บทความนี้ได้แนะนำวิธีการทำกราโนล่าบาร์เเบบอบที่อร่อยและเพิ่มพูนสุขภาพ สามารถปรับแต่งรสชาติตามความชอบของคุณ และความสะดวกสบายของคุณเอง คุณสามารถเพลิดเพลินกับกราโนล่าบาร์ที่คุณทำได้ทุกเวลาและนำมาแบ่งปันกับคนที่คุณรักได้อย่างอิ่มท้องและประทับใจ.
รสชาติต่างๆ ของกราโนล่าบาร์
กราโนล่าบาร์เเบบอบมีรสชาติต่างๆ ที่คุณสามารถสร้างขึ้นมาตามความชอบของคุณ นี่คือบางตัวอย่างของรสชาติที่คุณสามารถสร้างขึ้นได้:
- รสชาติช็อคโกแลต: หากคุณรักช็อคโกแลต คุณสามารถเพิ่มชิปช็อคโกแลตหรือครีมช็อคโกแลตเข้าไปในกราโนล่าบาร์ เพื่อให้มีรสชาติของช็อคโกแลตที่หอมหวานและเข้มข้น.
- รสชาติผลไม้: คุณสามารถเพิ่มผลไม้แห้งเช่น แครนเบอร์รี่หรือลูกเกดเเลนท์เข้าไปในกราโนล่าบาร์ เพื่อให้มีรสชาติผลไม้สดชื่นและเนื้อหน้าชิค.
- รสชาติความหวาน: การเพิ่มน้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายเเดงสีเข้มในส่วนผสมของกราโนล่าบาร์จะทำให้มีรสชาติความหวานที่น่าติดใจ.
- รสชาติผลไม้และช็อคโกแลต: คุณยังสามารถผสมรสชาติของผลไม้และช็อคโกแลตในกราโนล่าบาร์ เช่น แครนเบอร์รี่และช็อคโกแลตขาว เพื่อให้มีความหลากหลายในรสชาติ.
- รสชาติสุขภาพ: หากคุณต้องการกราโนล่าบาร์ที่เพิ่มพูนสุขภาพ คุณสามารถเพิ่มมะพร้าวอบแห้งหรือเมล็ดทานตะวันเข้าไป เพื่อให้มีรสชาติที่เป็นประโยชน์และอุดมไปด้วยสารอาหาร.
กราโนล่าบาร์เเบบอบมีความหลากหลายในรสชาติและคุณสามารถปรับแต่งให้เป็นไปตามความชอบของคุณได้อย่างไม่จำกัด ลองผสมและปรุงรสชาติตามสไตล์ของคุณเองเพื่อสร้างกราโนล่าบาร์ที่เป็นเอกลักษณ์และอร่อยตามต้องการของคุณ.
การเก็บรักษากราโนล่าบาร์
การเก็บรักษากราโนล่าบาร์เเบบอบเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้สินค้าคงคุณภาพและรสชาติมากที่สุด นี่คือวิธีการเก็บรักษากราโนล่าบาร์อย่างเหมาะสม:
- ใช้ซองกระดาษหรือฟอยล์คลอส: หลังจากที่คุณตัดกราโนล่าบาร์ตามขนาดที่ต้องการแล้ว คุณสามารถบรรจุกราโนล่าบาร์ลงในซองกระดาษหรือฟอยล์คลอสเพื่อรักษาความกรอบและป้องกันความชื้นจากอากาศ.
- เก็บในที่แห้งและเย็น: กราโนล่าบาร์ควรถูกเก็บรักษาในที่แห้งและเย็น เพื่อป้องกันการทำให้กราโนล่าบาร์เหมาะหรือมีความชื้น.
- ใช้ถุงซิปล็อค: ถ้าคุณไม่ใช้กระดาษหรือฟอยล์คลอส คุณสามารถใช้ถุงซิปล็อคในการเก็บรักษากราโนล่าบาร์ได้ เปิดถุงและกล่องอาหารออกจากอากาศในถุงแล้วปิดแน่นเมื่อเก็บเสร็จสิ้น.
- หลีกเลี่ยงแสงแดด: กราโนล่าบาร์ควรเก็บห่างจากแสงแดดเพื่อป้องกันการออกฤทธิ์ที่อาจทำให้กราโนล่าบาร์เสื่อมสภาพ.
- สังเกตราวกาศ: ถ้าคุณเก็บกราโนล่าบาร์ในสภาพอากาศชื้น ควรสังเกตราวกาศในซองหรือถุงและถ้ามีความชื้นควรเปิดซองหรือถุงเพื่อให้กราโนล่าบาร์สามารถหายความชื้น.
- รักษาการแยกชั้น: หากคุณเก็บกราโนล่าบาร์ที่มีรสชาติต่างๆ ควรรักษาให้แยกชั้นตามรสชาติเพื่อป้องกันการผสมรสชาติกัน.
โดยปฏิบัติตามขั้นตอนการเก็บรักษาเหล่านี้ คุณจะสามารถเก็บรักษากราโนล่าบาร์เเบบอบให้คงคุณภาพและรสชาติที่ดีไว้นานๆ และสามารถสนุกกับการรับประทานกราโนล่าบาร์ที่คุณทำได้ตลอดเวลา.
การแทนที่น้ำผึ้งหรือซิรัป
การแทนที่น้ำผึ้งหรือซิรัปในการทำกราโนล่าบาร์เเบบอบสามารถทำได้โดยใช้ส่วนผสมอื่นที่มีรสชาติหวานเเละความเข้มข้นที่เพียงพอเเทนได้ เรามีตัวเลือกที่คุณสามารถใช้เเทนได้ เพื่อให้คุณทำกราโนล่าบาร์ที่เหมาะสมกับความชอบของคุณ:
- น้ำมันมะพร้าว: น้ำมันมะพร้าวเป็นทางเลือกที่ดีในการเปลี่ยนแทนน้ำผึ้งหรือซิรัป เนื่องจากมันมีรสชาติหวานธรรมชาติและมีความหอมหวาน คุณสามารถใช้น้ำมันมะพร้าวในปริมาณเท่าเดิมที่ระบุในสูตรเพื่อคงความคงเครงของสัดส่วน.
- น้ำตาลทราย: ถ้าคุณไม่ต้องการใช้น้ำผึ้งหรือซิรัป เเต่ยังต้องการความหวาน คุณสามารถใช้น้ำตาลทรายในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้กราโนล่าบาร์มีรสชาติหวาน.
- น้ำมันรำข้าว: น้ำมันรำข้าวเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพื่อเพิ่มความหอมและรสชาติเข้มข้นให้กับกราโนล่าบาร์ คุณสามารถใช้น้ำมันรำข้าวในปริมาณที่เหมาะสมตามความต้องการ.
- น้ำมันอื่น ๆ: นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้น้ำมันอื่น ๆ เช่น น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันถั่วเหลืองเป็นตัวเลือกการแทนที่อื่น ๆ ที่มีรสชาติเเละคุณสมบัติที่ต่างจากน้ำผึ้งหรือซิรัป.
ความสำคัญอย่างยิ่งคือต้องทดลองเปลี่ยนแทนที่น้ำผึ้งหรือซิรัปด้วยส่วนผสมที่คุณเลือกในปริมาณที่เหมาะสม และทำการประกอบเสร็จสมบูรณ์ก่อนที่คุณจะตัดและอบกราโนล่าบาร์ เพื่อให้คุณมั่นใจว่ารสชาติและคุณภาพของสินค้ายังคงคงที่มากที่สุด.
การทำกราโนล่าบาร์โดยไม่ใช้เตาอบ
การทำกราโนล่าบาร์โดยไม่ใช้เตาอบเป็นวิธีที่สะดวกและง่ายที่คุณสามารถลองทำได้ที่บ้าน นี่คือขั้นตอนการทำกราโนล่าบาร์โดยไม่ใช้เตาอบ:
- เตรียมส่วนผสม: ตั้งเตรียมส่วนผสมเหมือนกับกราโนล่าบาร์ที่เเบบอบ ตัดส่วนผสมลงบนฐานกราโนล่าบาร์และผสมให้เข้ากัน.
- ประกอบกราโนล่าบาร์: นำส่วนผสมที่ผสมเสร็จสิ้นแล้วอาจจะนำไปกลึงให้เป็นแท่งรูปสี่เหลี่ยมหรือสามเหลี่ยม ใช้มือหรืออุปกรณ์ช่วยประกอบกราโนล่าบาร์ให้มั่นคง.
- ทาน้ำมัน: ทาน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันอื่น ๆ บนฐานกราโนล่าบาร์เพื่อป้องกันการติดหรือเสียกลิ่น.
- ช่วยให้เข้ารสชาติ: หากคุณต้องการเพิ่มความหวานหรือรสชาติอื่น ๆ คุณสามารถใส่น้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายลงไปในส่วนผสม.
- เย็นกราโนล่าบาร์: หลังจากที่คุณประกอบเสร็จสิ้น ให้วางกราโนล่าบาร์ลงบนถาดหรือจานและนำไปเย็นในตู้เย็นเป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง หรือจนกราโนล่าบาร์ติดแน่นและมั่นคง.
- ตัดและรับประทาน: หลังจากเย็นเรียบร้อย คุณสามารถตัดกราโนล่าบาร์เป็นชิ้นตามขนาดที่คุณต้องการและเสิร์ฟพร้อมกับน้ำหรือกาแฟตามความชอบของคุณ.
การทำกราโนล่าบาร์โดยไม่ใช้เตาอบเป็นวิธีที่สามารถสร้างกราโนล่าบาร์อร่อยได้ในบ้านของคุณโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ คุณสามารถปรับแต่งรสชาติตามความชอบของคุณและสนุกกับการทำขนมอร่อยของคุณเองได้อย่างง่ายดาย.
สรุป
ในบทความนี้ เราได้เรียนรู้ขั้นตอนที่ง่ายและสนุกในการทำกราโนล่าบาร์เเบบอบในบ้าน โดยไม่ต้องใช้เตาอบ กราโนล่าบาร์เหล่านี้มีรสชาติหลากหลายที่คุณสามารถปรับแต่งตามความชอบของคุณ อย่าลืมเก็บรักษาและเย็นให้เหมาะสมเพื่อรักษาคุณภาพและรสชาติของสินค้า ทุกคนสามารถสร้างกราโนล่าบาร์ที่อร่อยและเพิ่มพูนสุขภาพให้กับตัวเองและคนรอบข้างได้อย่างง่ายดาย
FAQs
สามารถใช้น้ำตาลทรายปลอดสารกันเสีย (unrefined sugar) แทนน้ำตาลทรายเเดงสีเข้มได้ไหม?
ใช่, คุณสามารถใช้น้ำตาลทรายปลอดสารกันเสียเพื่อแทนน้ำตาลทรายเเดงสีเข้มในสูตรได้ น้ำตาลทรายปลอดสารกันเสียมีรสชาติหวานธรรมชาติและเป็นทางเลือกที่เพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับกราโนล่าบาร์ของคุณ.
สามารถใช้ผลไม้สดแทนผลไม้แห้งได้หรือไม่?
ใช่, คุณสามารถใช้ผลไม้สดเพิ่มเติมในสูตรกราโนล่าบาร์ได้ แต่อาจจะต้องปรับปรุงปริมาณน้ำมันหรือส่วนผสมเพิ่มเติมเพื่อควบคุมความชื้นของส่วนผสม.
มีวิธีการแปรรูปกราโนล่าบาร์ให้เหมือนกราโนล่าบาร์ในร้านค้าไหม?
ความสำเร็จในการทำกราโนล่าบาร์ที่เหมือนกราโนล่าบาร์ในร้านค้าจะขึ้นอยู่กับการปรับปรุงสูตรและการฝึกฝนในการทำขนม เราแนะนำให้ลองหลายครั้งและปรับปรุงเพื่อให้ได้รสชาติและความกรอบที่ตรงตามความต้องการของคุณ.
กราโนล่าบาร์สามารถเก็บรักษานานเท่าไร?
กราโนล่าบาร์สามารถเก็บรักษาได้นานเท่าที่คุณเก็บรักษาในสภาพแห้งและเย็น เราแนะนำให้เก็บในซองหรือฟอยล์คลอสและเย็นในตู้เย็นเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง หรือจนกราโนล่าบาร์มีความกรอบและมั่นคง.
มีวิธีทำกราโนล่าบาร์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ลดน้ำหนักหรือควบคุมอาหารได้ไหม?
ใช่, คุณสามารถปรับแต่งสูตรกราโนล่าบาร์เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางอาหารและควบคุมอิ่มตัวได้ โดยใส่ส่วนผสมที่มีคุณค่าทางอาหารมากขึ้นเช่น เมล็ดทานตะวันหรือผลไม้แห้งที่มีในกราโนล่าบาร์ของคุณ.